ยุทธพงษ์ สืบภักดี : ครูหนุ่ม

REGGAE on The Rock 2 ณ ชะอำ ผมไปแล้วมีเรื่องมาเล่าให้ฟัง…ภาค 2

by on ส.ค..03, 2010, under ครูหมีขี้บ่น

ภาพบรรยากาศตอนเช้า ออกมานั่งรับลมทะเลและมีเรือพายมาขายกาแฟจากบริการของที่พักมี internet ให้นั่งเล่นสบายๆ 

     หลังจากที่ผ่านคืนนั้นมา พอตื่นมาตอนเช้าผมก็รีบลุกขึ้นมาดูข่าวและ เช็คข่าวสารทันที่เลย มีข่าวออกแทบทุกช่อง มีคนโทรมาหาทั้งบอกว่า เห็นเราในทีวีและเรื่องคนตีกัน สรุปคือคืนนั้นมีคน ตาย 1 ศพและเจ็บ 100 กว่า ส่วนมากก็แผลแตก ฉีก และรถชนกันมากมาย ก็น่าจะเป็นงั้นอยู่แล้ว ทั้งเมาและตีกัน นั่งเช็กข้อมูลข้าวสารไปเรื่อยๆ ก็เวลาราวๆ 9.00 ก็เริ่มเดินทางกลับ จริงๆ เรียกว่าไปเที่ยวต่อจะดีกว่า ก็กางแผนที่และขับรถเลาะกลับไปที่งานอีก 1 รอบตั้งใจจะไปเพลินวานที่หัวหิน ห่างไปราวๆ 40 กิโล แต่จะแวะหาข้าวเช้าทานที่หาดชะอำ ก็ขับรถไปจนถึงเริ่มมีคนทยอยกันกลับแล้วส่วนมากเป็นกลุ่มมอเตอร์ไซต์ รถแทบไม่มีเลยน้อยมาก น่าแปลกใจจริงๆ ปกติ งานระดับนี้วันรุ่งขึ้นนี้ยังคงมีคนเยอะอยู่เลย นี้แสดงว่าเมื่อคืนนี้มันตีกันจนวุ่นวายมากๆ เลยต้องรีบกลับตั้งแต่เมื่อคืน ดูสภาพแล้วเละไปหมดเลย ทั้งขยะและสถานที่ งานนี้เทศบาลชะอำรับไปเต็มๆ เห็นคนงานทำความสะอาดของเทศบาลชะอำมากันร่วมร้อยคน ใส่เสื้อส้มเต็มไปหมด เหนื่อยครับ สังเกตุเห็นคนปั่นจักรยานไปมามี รอยเย็บบ้าง หัวแตกบ้างอยู่ 4-5 คน

     จนเจอร้านน่าทานอยู่ข้างถนน สะอาดดีเลยจอดรถแวะลงไปทานกัน เดินไปหาซื้อรองเท้าที่หายไป 1 คู่ ราคาไม่แพงอย่างที่คิด 49 บาท ดีไม่ดีถูกกว่าที่บ้านผมซะอีกกับรองเท้าไซค์ 14 ของผม นั่งทานข้าวจนอิ่มรสชาติโอเคแต่ทำช้ามากเพราะว่าคนเยอะ ระหว่างทานก็คุยกันว่าจะไปที่ เพลินวาน ที่อยู่หัวหิน ห่างออกไปราวๆ 40 กิโล ก็โออยู่ ไปก็ไปยังไม่รู้เลยว่ามันคือไร รู้แต่ว่าของเก่าๆ ไปถึง อ้อ เป็นคล้ายๆ ห้าง แต่ข้างในตกแต่งเป็นชุมชนเก่าๆ ประมาณงานวัด บ้านไม้และของเก่าๆ เต็มไปหมดเลย ได้ข่าวว่าสร้างขึ้นมาเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาเที่ยวชม ตอนแรกเก็บค่าเข้า ก็บันลัยสิครับ ใครเค้าจะมาเสียเงินเข้า เลยต้องเปิดให้เข้าชมฟรี ที่นี่ล่ะ คนล้นเลยบ้านแทบพัง แห่กันมาเยอะไปหมด โดยส่วนมากแล้วนอกจากมาถ่ายรูปและซื้อของกินนิดๆ หน่อยๆ แล้วก็ไม่มีอะไร ถ่ายกันจนหน่ำใจแล้วก็เดินทางต่อ

     ต่อจากนั้นก็เดินทางกลับบ้านระหว่างเดินทางกลับก็แวะซื้อของตามร้านขายของฝากข้างทาง พวก แม่กิมไล้ กิมลัย ทั้งหลาย ของแม่งโครตจะแพงระยำ บัดซบเลยครับพี่น้อง ซื้อไม่ลงเลยสักอย่างเดียวมันแพงซะจนจุกไปถึงตับเลย หลังจากเดินลงไปซื้อแล้วก็สลัดเขาที่หัวหลุดไปได้ เกือบโดนต้อนไปกินหญ้าแล้ว ก็เลยคุยกันว่าไป ดอนหอยหลอด กันดีกว่า เป็นทางผ่านกลับบ้านพอดีด้วยของถูกกว่ากันเยอะ ก็ดีนึกอยากกินปลาอินทรีย์แดดเดียวขึ้นมาเลย ว่าแล้วก็ไปต่อ ขับไปจนถึงที่ ผู้คนก็มากมายจริงๆ คงจะมาด้วยจุดประสงค์เดี๋ยวกันทั้งหมด มาถึงผมก็ตรงไปที่ร้านคุณยายเจ้าประจำที่เคยซื้อๆกันไป ซื้อ ปลาอินทรีย์แดดเดียว ปลาเค็ม ปลาทูมัน ปลาหมึกยักษ์ย่าง หอยนางรม หอยทับทิม หอยดอง ฮ่าๆๆ หมดเงินไปเยอะกว่าเที่ยวที่ชะอำอีก แล้วทุกคนก็มารวมตัวกันีท่รถโดยไมได้นัดหมาย ต่างแกะของกินที่ตัวเองซื้อมา กองรวมกันแล้วก็กลายเป็นมื้อกลางวันไปโดนปริยายแบบง่ายๆ แต่อิ่มได้ใจจริงๆ มีแต่ของหรูๆ โดยมีรายการดั่งนี้ หอยนางรมสดทานกับน้ำพริกเผาและเครื่องทรงแกล้มกระถินหวานได้ใจ ปลาหมึกยักษ์ย่างสะใจไปเลยตัวใหญ่ดีชอบ หอยเซลล์ย่าง ห่อหมกปลาอนิทรีย์ มื้อนี้ถ้าที่เหลามี 1,500 แต่นี้หมดไป 300 บาท คนละเรื่อง กินกันจนอิ่มก็เริ่มคิดกันต่อว่าจะไปไหนกันต่อดี ตอนแรกผมว่าจะไป ตลาดน้ำดำเนินสะดวก หรือไม่ก็ ตลาดน้ำอัมพวา แต่สอบถามข้อมูลมาแล้ว ปรากฏว่าเค้าบอกกันว่า ตลาดน้ำดำเนินสะดวกต้นฉบับนั้นมีเฉพาะตอนเช้า ตอนนี้ 14.00 วายไปหมดแล้ว ส่วนอัมพวานั้นมีตอนเย็นๆ ถึงมืด อ้าวแล้วเอาไงดีนี้ แถมมีคนบอกว่าไปมาแล้วไม่มีอะไร ร้อน เฉยๆ ก็เลยตัดสินใจว่างั้นไม่ไปดีกว่ากลับบ้านเลย แต่มันมีอยู่คนหนึ่งในกลุ่ม นั่งรบเร้าจะไปให้ได้ จนรำคาญ เอาไปก็ได้วะ ไปถ่ายรูปกับป้ายก็ยังดี กับตลาดน้ำอัมพวา ….

      โห เมื่อมาถึงบอกกับตวเองเลยครับว่าถ้าไม่ได้มาเสียใจตายเลย สุดยอดมากเลยครับ ตลาดที่นี่ได้ยินข่าวว่า บูรณะขึ้นมาใหม่เพื่อทำให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวแทน ตลาดน้ำดำเนินสะดวก ด้วยเหตุผลไรไม่รู้ รู้แต่ว่าที่นี่เยี่ยมไปเลยครับ ร้านค้า ผู้คน มากมาย สินค้าและวิถีชีวิต ผสมผสานระหว่างของเก่าและใหม่ ได้อย่างลงตัวที่สุด มีตั้งแต่ร้านคุณตาคุณยายของแท้ ไปจน มินิบาร์แอนด์ผับกันเลยที่เดีว สุดยอด ทั้งร้านค้า และสินค้าที่วางจำหน่ายอยู่นี้มีแต่ของแปลกๆ ไอเดียดีๆ ของสวยๆทั้งใหม่และของเก่า ของที่ระลึกเฉพาะอย่าง ยันปลาทูแม่กลองคอหัก นั้นเลย ที่น่าสนใจและตะลึงที่สุดเลยก็คือ ร้านปลาตอด ซึ่งผมจำได้ว่าเพิ่งดูรายการอะไรสักอย่างนี่ล่ะที่เค้าพาไปที่ประเทศญี่ปุ่นไปนั่งห้อยขาแช่น้ำให้ปลามันตอดเซลล์ที่ตายแล้วที่เท้าเล่น โทษทีครับที่นี่มีครับ อย่างเจ๋ง นี้ถ้ามีเวลาจะเข้านั่งให้ปลามันตอดเล่นสักครึ่งชั่วโมง (129 บาท) มีสวนสาธารณะซ่อนอยุ่ข้างในจำชื่อไมได้ว่า สวนบุพภาๆ ไรนี้ล่ะ สวยมากเลยครับ มีของกินจากเรือที่เล่นไปมาก โครตกุ้งขายตัวเท่าแขน พยายามมองดูแล้วไม่ใช่กุ้งมังกรด้วย แต่ทำไมตัวมันใหญ่จังเลย ปลาหมึกยักษ์ และภาพที่เห็นแล้วน้ำตาผมจะไหล คือ คุณยายแก่ๆ นั่งขายขนมอยู่หน้าบ้านแกเองแบบธรรมชาติมาก เน้นกว่าแก่มาก ผมอยากจะถ่ายรูปมาด้วยแต่มองแกแล้วไม่กล้าถ่ายเลย คิดถึงคุณยายผมมากเลยครับจริงๆ ตั้งแต่เที่ยวตลาดน้ำมาที่นี่ประทับใจมากเลยครับ ถ้ามีโอกาสกลับไปอีกตั้งใจไว้แล้วจะไปถ่ายรูปคุณยายคนนี้ให้ได้ ดีกว่าตลาด 100 ปี ตลาดสามชุกที่สุพรรณบุรีอีกครับ อารมณ์เหมือนเดินอยู่ จตุจักรเลยแต่ได้ความรูสึกดีกว่า เพราะว่าเป็นแบบอนุรักษ์ๆ หน่อย ของบางอย่างก็แพง บางอย่างก็ถูก ถ่ายกันมาเป็นร้อยๆ ภาพและซื้อของมานิดหน่อยก็เต็มอิ่มเลย 16.30 น….

     หลังจากเสร็จจากที่ตลาดน้ำอัมพวาแล้ว ก็เดินทางกลับบ้านเลย มีความสุขและคุ้มค่ามากครับ ทริปนี้ มากัน 6 คน แชร์เงินกันคนละ 1,000 บาท ทั้งค่าที่พัก ค่าน้ำมัน ค่าอาหาร ใช้ไป 5,700 บาทเลือกเงินกลับมาล้างรถและทานข้าวกลางวันได้อีก 1 มื้อ คุ้มค่ามากเลยครับ น่าสนใจไหมครับกับวันหยุดสองวันที่ผ่านมาของผม……

ผู้เขียน  จานหนุ่ม 

Comments are closed.

Looking for something?

Use the form below to search the site:

Still not finding what you're looking for? Drop a comment on a post or contact us so we can take care of it!

Visit our friends!

A few highly recommended friends...