ยุทธพงษ์ สืบภักดี : ครูหนุ่ม

พวงหรีด…..มันคืออะไรเน้อ…..

by on ต.ค..12, 2010, under ครูหมีขี้บ่น

                พวงหรีด??  จริงๆ แล้วใครรู้มั่งว่ามันคืออะไร ทำไมต้องเป็น พวงหรีด แล้วทำไมต้องเรียกว่า พวงหรีด ทำไมต้องไว้ในงานศพ ทำไมต้องซื้อให้ ทำไมต้องให้ ให้แล้วมันเป็นอย่างไง

                นี่คือคำถาม เมื่อผมไปงานศพของคุณแม่เพื่อนรุ่นน้องที่สนิทและผมเคารพคุณแม่ของเค้า และผมเสียใจกับการจากไปครั้งนี้แบบสุดหัวใจจริงๆ ต้องขอเล่าเรื่องย้อนไปก่อนหน้านี้หน่อย คือผมรู้จักกับคุณแม่ของน้องเค้ามาก่อนที่จะรู้จักน้องเค้าซะอีก และมาสนิทกันตอนที่มาทำงานที่เดียวกันกับเดินทางไปสอบด้วยกันบ๋อยๆ เมื่อคุณแม่ เค้าเสียไปผมก็เต็มใจช่วยเหลือน้องเค้าแบบเต็มที่ ก่อนอื่นผมขอเล่าถึงความหมายของพวงหรีดและหน้าที่ของมันก่อน

                พวงหรีด (wreath)  หมายถึง เมื่อคนเราตายบรรดาญาติมิตรพี่น้องก็จะนำพวงหรีดมาวางไว้ เพื่อแสดงความอาลัย และความระลึกถึง ซึ่งประเพณีนี้ สืบทอดมาจากยุโรปเหนือเมื่อนานมาแล้ว ความเชื่อนี้คือ ทูตสวรรค์จะมานำวิญญาณของคนที่เสียชีวิตไป และการให้พวงหรีด ก็ถือเป็นการแสดงความเคารพต่อทูตสวรรค์เหล่านี้  จะเห็นว่าการวางพวงหรีดเป็นประเพณีของชาติตะวันตก แม้แต่คำว่า “หรีด” ก็เป็นคำทับศัพท์ ภาษาอังกฤษ คือ Wreath (รีธ) แปลว่า n. พวงหรีด,พวงมาลัย,มาลัย,สิ่งที่ร้อยเป็นวง vt.,vi. ร้อย(พวงมาลัย,ดอกไม้) พันรอบ,ม้วน,โอบ,โอบล้อม,ล้อมรอบ,ปิด,หมุน,ทำให้งอ,หมุนเป็นวง แต่สำหรับคนไทยที่นับถือศาสนาพุทธ ได้รับเอาประเพณีดังกล่าวมา แต่ต่างวัตถุประสงค์ คือ การส่งพวงหรีดวางในงานศพ เพื่อเป็นการแสดงออกถึง คำว่า “ขอแสดงความเสียใจ” ต่อเจ้าภาพ หรือญาติมิตรพี่น้องของผู้เสียชีวิต รวมทั้งเป็นการแสดงด้วยว่า ตนเอง ครอบครัว หรือองค์กร ได้มาคารวะผู้เสียชีวิตแล้ว โดยมักจารึกชื่อของ ตนเอง ครอบครัว หรือองค์กร ติดไปกับพวงหรีดด้วย  ในมุมมองของนักวิชาการสิ่งแวดล้อม พวงหรีด ซึ่งได้ถูก จัดทำ ตกแต่ง อย่างสวยงาม ได้มอบ ต่อ ญาติมิตรพื่น้องผู้เสียชีวิต ก็จะถูกวางในสถานที่จัดงานศพของผู้เสียชีวิตตามความเหมาะสม อย่างเป็นระเบียบและส่วยงาม และเมื่อมีการนำศพผู้เสียชีวิตไปทำพิธีฌาปนกิจ หรือเตรียมเผาศพ ก็มักจะนำพวงหรีดตกแต่ง หรือเข้าขบวนพิธีด้วย

ที่มา / http://www.gwwn.net/bb/data/00037-2-1.html

 

มีต่อ…

 

 

                พอได้อ่านข้างบนก็คงจะเข้าใจที่มาที่ไปของพวงหรีดกันพอสมควร สรุปง่ายๆ คือ พวงหรีด คือดอกไม้ที่จัดมาอย่างสวยงามเพื่อแสดงความเคารพต่อผู้เสียชีวิต เป็นครั้งสุดท้ายและแสดงออกถึงความเสียใจต่อบุคคลอันเป็นที่รัด นั้นเอง ในประเพณีของฝรั่งมังคา เราเห็นตามในหนังคือ เค้าจะเอาช่อดอกไม้ไปประดับประดาตามรอบหีบศพเพื่อความสวยงาม และวางบนหีบศพ(คล้ายบ้านเรา) หรือโยนลงในหลุมศพก่อนที่จะทำการกลบดิน เพื่งแสดงความรักนั้นเอง โดยส่วนตัวแล้วตัวผมนั้นไม่เคยซื้อพวงหรีดไปในงานศพใครเลย เพราะว่ามีความรู้สึกว่ามันไม่จำเป็น สิ้นเปลืองค่าใช้จ่าย สู้เอาเงินไปทำบุญกับเค้าเพื่อช่วยงานศพตามประเพณีของคนไทยจะดีกว่า แต่….เมื่อมีการณ์นี้เกิดขึ้น นี้เป็นครั้งแรกที่ผมตัดสินใจซื้อพวงหรัดใครกับคุณแม่ของน้องเค้า

 

                ตอนแรกที่ตัดสินใจซื้อนั้นด้วยเหตุผลง่ายๆครับ ตามความรู้สึกเลย คือเราเคารพและเสียใจจริงๆ และงานวันนั้นเป็นวันแรกที่รดน้ำศพกัน คนยังมาไม่ค่อยมากและ พวงหรีด นั้นมีจำนวนน้อย ผมเลยซื้อเพื่อมาแขวนแสดงถึงความให้เกรียติ และแสดงความเคารพต่อคุณแม่ของเค้า โดยใส่ชื่อของครอบครัวตัวเองลงไป แต่จริงๆแล้ว น้องเค้าคงไม่ได้หวังอะไรแบบนี้ เพราะมีสิ่งเดียวที่เค้าหวังคือไม่อยากให้เกิดงานนี้นั้นเอง…..

 

                แล้วผมเอามาพูดทำไมล่ะ?? คือหลังจากช่วยงานน้องเค้าจนเสร็จช่วงเย็น และมานั่งพักสูบบหรี่อยู่ข้างๆ ศาลา ก็ได้ยินเสียงผู้ใหญ่กลุ่มหนึ่งที่นั่งอยู่ด้วยกันข้างๆ เค้าคุยกันเรื่องพวงหรีด แลละโทรไปสั่งพวงหรีด จริงๆก็ไม่ได้ผิดปกติอะไร เป็นเรื่องปกติ แต่มีช่วงหนึ่งที่เค้าพูดขึ้นมาแล้วสะกิดใจผมคือ “เอาให้ใหญ่ๆ เลยนะ สวยๆเลย รู้ไหมว่าพวงหรีดนี้ของใคร ของท่าน………..เลยนะอย่าให้เสียหน้าล่ะ”   ผมเลยเก็บความสงสัยในคำพูดนั้น และคิดไปต่างๆ นาๆ ว่าทำไมเค้าพูดแบบนั้น คิดอะไรอยู่ และมันจะหมายถึงอะไร ……..

 

                พอกลับมาบ้านอาบน้ำอาบท่า เตรียมตัวไปอีกที่คือ พิธีสวดอภิธรรม ตอนค่ำ โดยที่ยังติดความสงสัยอยู่ในใจเรื่องพวงหรีดอยู่ เมื่อไปถึงที่งาน และทักทายกับน้องเค้าเสร็จแล้ว ผมก็มานั่งและสังเกตุเห็นว่า จำนวนพวงหรีดนั้นมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น และได้นั่งอ่านชื่อของคนที่นำมาให้อย่างช้าๆ และสังเกตุไปเรื่อยๆ ก็ได้เห็นว่า พวงหรีดนั้น แบ่งออกเป็น 5 กลุ่มใหญ่ๆ  คือ

 

1. สถานที่ทำงานของญาติของผู้เสียชีวิต ตั้งแต่ผู้เสียชีวิต สามี ลูก พี่ น้อง ปู่ย่า ตายาย ลุงป้าน้าอา หลาน ถ้ามีก็มาหมด

2. กลุ่มบริษัท หรือองค์กร หรือ สมาคม ชมรม ที่ผู้เสียชีวิตหรือญาติพี่น้องร่วมอยู่ เช่น สมาคมศิยษ์เก่า ชมรมผู้สูงอายุ ธนาคาร ประกันชีวิต บริษัทคู่ค้าที่ร่วมงานกันอยู่

3. คนใหญ่คนโต กลุ่มนี้ก็ได้แก่ เจ้านายโดยตรง เจ้านายโดยอ้อม  เจ้าภาพร่วมที่เป็นประธานสวดอภิธรรม  คนรู้จักที่มีตำแหน่งใหญ่โต

4. กลุ่มครอบครัว กลุ่มเพื่อน

5. กลุ่มที่แอบแฝงความรู้สึก……

 

                ข้อ 5 คนอ่าน อ่านแล้วคงจะงงว่ามันคือไรเดี๋ยวผมจะเล่าต่อ ขออธิบายกลุ่ม 1-4 ก่อน ในกลุ่ม 1-4 นั้นมาด้วยความเต็มใจ เพราะว่า บุคคลหรือกลุ่มเหล่านี้นั้นมาด้วยความเคารพและให้เกรียติแก่ผู้เสียชีวิต เป็นการแสดงถึงความสำคัญของผู้เสียชีวิต แสดงถึงความรักและอาลัยจากความรู้สึก แสดงถึงความสูญเสียญาติ เพื่อน พี่ น้อง หรือผู้ที่ร่วมงาน ร่วมทุกข์รว่มสุขกันมา อันนี้ไม่สงสัยแต่ประการใด และเข้าใจ แต่กลุ่มที่ 5 ที่ผมว่าผมรู้สึกว่ามันแปลกๆ คือ ในวันสวดอภิธรรมนั้น เมื่อผมไปถึง ก็ปรากฏว่า คนเต็มวัดไปหมดเลย เพราะว่าวันนั้นมีงานถึง 3 ศาลา และที่ศาลาใหญ่นั้นมีคนใหญ่คนโตเสียชีวิตด้วยเลยคนมากันเยอะไปหมด ผมไปถึงที่งานก่อนเวลาประมาณ 30 นาที จึงได้นั่งรอและเดินออกไปสูบบหรี่ไปพลางๆ และได้ยินเสียงจาก ศาลาใหญ่ ดังแว่วๆ มา พอจับใจความได้ผมตกใจเลย…

 

                เสียงที่ได้ยินนั้นเป็นการปราศรัยเรื่อง การเมือง !!!!! โดยนักการเมืองระดับชาติท่านหนึ่ง ผมยืนงงไปพักหนึ่งและมองตามเสียงนั้นไปด้วยความไม่แน่ใจ ว่าใช่งานศพจริงหรือเปล่า หรือว่าผมเข้าใจผิด อาจจะเป็นงานสัมนาทางการเมืองก็ได้ แต่ใครจะมาเช่าศาลาวัดหาเสียงว้า และคนก็ยังคงเดินไปที่นั้นเยอะจริงๆ ยืนฟังอยู่นาน เนื้อหาและสิ่งที่พูดนั้นไม่ได้เกี่ยวกับผู้เสียชีวิตเลย การเมืองล้วนๆ ติ สส. คนโน่น ว่า สส. คนนี้ ว่าระบบการเมืองอย่างงั้นอย่างงี้ ค่อนข้างดุเดือดเลยที่เดียว ยืนดูดบุหรี่ไป 2 ตัว ยังพูดไม่จบ เลยถอยกลับมานั่งที่งานคุณแม่น้องเค้าดีกว่า พอมานั่งก็มองไปเห็น พวงหรีดของ สส. ท่านนั้นพอดี อ้าวรู้จักกันด้วย มีชื่อพร้อมตำแหน่ง พร้อมโลโก้พรรค นี้ถ้าใส่สโลแกนได้คงใส่ไปแล้ว เกิดคำถามขึ้นในใจทันทีเลยว่า เค้ารู้จักกันด้วย โอว์คุณแม่น้องไม่เบาเลย มี สส. ให้เกรียติมามอบพวงหรีดให้ด้วย หรือ… อาจจะให้ด้วย นัยยะอื่น…….

 

                พอผมคิดแบบนั้น ทำให้ผมสูญเสียความมั่นคงทางความคิดและเริ่มคิดออกไปในทางแง่ลบทันที บวกกับคำพูดที่ผมได้ยินมาเมื่อตอนเย็น ทำให้คิดไปว่าหรือพวงหรีดทั้งหมดนี้ไม่ได้มาจากความรู้สึกแบบเดียวกับผมเลย ล้วนมาจากความแอบแฝงทั้งหมด เมื่อเริ่มสวดอภิธรรม ผมเริ่มมองและอ่านชื่อผู้ให้อีกครั้ง ทำให้เกิดความคิดใหม่ว่า การที่กลุ่มคนในกลุ่มที่ 2 และ 3 บางคน มาด้วยความรู้สึกในกลุ่มที่ 5 หรือเปล่า เพราะเมื่อสังเกตุดีๆ บริษัทบางบริษัทมาด้วยชื่อบริษัททั้งๆที่ คนที่รู้จักกันเพียงแค่ผิวเผิน แต่เอาชื่อบริษัทมา ท่านคนใหญ่คนโตบางคนตัวไมได้มาแต่เพราะรู้จักเลย เอาพวงหรีดมาแทน นักการเมืองที่ตั้งใจ………………………..  บริษัทประกันชีวิตที่ต้องการแสดงความเชื่อมั่นและโฆษณา ธนาคารที่แสดงถึงความเป็นเจ้าหนี้ บริษัทที่ต้องการติดสื่อ (เพราะคนมาเยอะ) คนใหญ่คนโตบางคนที่ต้องการบอกตำแหน่งของตัวเอง (เขียนตำแหน่งมาเต็มที่เลย) หรือแม้กระทั่งตัวผมเองที่ให้เพราะต้องการให้รู้ว่าครอบครัวผมมาแล้วนะ เสียใจนะ ทั้งๆ ที่ผมมาคนเดียว ….เกิดความสับสนในหัวขึ้นมาทันทีเลย….

 

                ความคิดนี้ผมสลัดออกจากหัวไม่ออกตามความเคยตัวของพวกคิดมาก จริงๆจะเริ่มเขียนตั้งแต่เมื่อคืนแล้วเพราะว่ากำลังสด ใหม่จากความสงสัยและสับสน แต่ยังเรียบเรียงไม่ถูกเลยขอผลัดมาวันนี้ และได้ค้นหาข้อมูล ประกอบเรื่องนี้ ก็ทำให้กระจ่างมากขึ้นในหลายๆด้าน ได้รู้ว่า วงจรของพวงหรีดนั้นตามที่ตัวเองเรียงลำดับความสำคัญแล้วมันเป็นแบบนี้

 

ชาวสวนปลูกดอกไม้ขาย ——- ขายดอกไม้ได้เงิน

ร้านขายพวงหรีด ——- ขายพวงหรีดได้เงิน

คนซื้อ ——– ซื้อเพื่อแสดงความเคารพและเสียใจ

คนบางคน ——- ซื้อเพื่อแสดง Message บางอย่าง

ครอบครัวผู้เสียชีวิต ——– ได้รับเกรียติและแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของผู้เสียชีวิต

หลังเสร็จงาน —– ถ้าไม่ทิ้งลงทิ้งขยะ สามารถนำดอกไม้เหล่านี้ไปทำปุ๋ยให้เกิดประโยชน์เพื่อปลูกดอกไม้ต่อไป

 

                Win Win ด้วยกันหมดไม่มีใครเสียอะไร เว้นเสียแต่ว่าจะนำไปทิ้งลงถังขยะทำให้เกิดมลภาวะและภาระของขยะแค่นั้นเอง ในส่วนของปุ๋ยคงต้องเป็นเรื่องของการจัดการของบุคคล และการพัฒนาของนักพัฒนาชุมชนทั้งหลาย

 

                “อ้าวมันก็ดีนี้ ไม่เสียอะไรเลย แล้วมาพูดทำไมวะ” หลายคนคงจะสงสัย จริงๆ ในความคิดผมตอนแรกนั้นค่อนข้างสับสนและหาคำตอบไม่ได้ว่ามันคืออะไรแน่ หลังจากหาข้อมูลและ สรุปออกมามันได้ตามข้างบน และไปเจอข้อความน่าสนใจอย่างหนึ่ง ของ ข่าวประชาชาติธุรกิจ  http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1283408038  ตรง “มูลค่าของธุรกิจพวงหรีดตกประมาณ 4-5 พันล้านบาทต่อปี”  มันก็ทำให้ฉุกคิดว่าเงินจำนวนขนาดนี้ สามารถทำอะไรได้อีกหลายๆอย่าง จะว่ามันไม่ดี ผมก็เถียงคอเป็นเอ็น เพราะว่าความรู้สึกทางใจมันห้ามกันไม่ได้ ถ้าเลิกไปก็กระทบพ่อค้ายันชาวสวน ในบทความเดียวกัน ก็บอกถึงวิธีแก้ว่าเปลี่ยนเป็นไอเดีย “กล่องนาบุญ” ที่ใส่เครื่องเขียนไว้บริจาดต่อไปเมื่องานเลิกและใช้ได้จริง เมื่อก่อนเราก็เห็นแบบที่เป็น ผ้าขนหนู แต่ถามหน่อยเถอะใครเค้าจะเอากลับไปใช้ต่อที่บ้าน เจ้าภาพก็ให้คนดูแลวัดนั้นล่ะต่อ ดีไม่ดีคนดูแลวัดก็ยังไม่เอาเลย เพระไรครับ เมื่อวาน ตอนทำพิธี ผมเห็น คนดูแลวัดนั้น ใส่ทองเส้นใหญ่กว่าผมอีก ไอเดียที่ว่า ให้เจ้าภาพประกาศไม่รับพวงหรีดนั้น ก็เป็นไปได้น้อยมาก อารมณ์นั้นใครจะมานั่งบอกแขกกัน เสียใจจะตายอยู่แล้ว จะไปห้ามใครก็ไม่มีอารมณ์รักโลก รักสิ่งแวดล้อมแล้วละครับ ใครจะทำไรก็ทำ และอะไรก็ไม่สวยเท่าพวงหรีดที่ทำจากดอกไม้สดอยู่ดี……..

 

                ผมก็เลยเชื่อว่า พวงหรีดนั้นอย่างไงก็คงไม่หายไปจากประเทศไทยแน่นอน และยังคงขายดีต่อไปอย่างไม่ต้องสงสัยและยังคงอยู่คู่สังคมไทยต่อไป เพราะมันกลายเป็นวัฒนธรรมไทยไปแล้ว เพียงแต่…ผมไปดูหนังเรื่อง THE PACIFIC และมีฉากงานศพ ที่เพื่อนบ้าน นำอาหารไปช่วยงานแค่ 1 จาน กับดอกไม้เล็กน้อยเพื่อไปช่วยประดับให้งานดูสวยงาม เพราะว่าต้องเข้าใจว่าไปงานศพนั้น เจ้าภาพคงไม่มีอารมณ์จะทำอะไรจริงๆนะครับ ถ้าเราช่วยเหลือได้ก็น่าที่จะช่วยเหลือกัน และการช่วยเหลือครั้งนี้นอกจากจะช่วยให้เราสบายใจและช่วยบรรเทาความทุกข์ใจของเจ้าภาพได้แล้ว เมื่อเรามีเรื่องเดือนร้อนอะไรก็คงที่เค้าจะมาช่วยเราได้ไม่ยากเท่าไร …

 

                แต่ต่อให้มันสวยสักเท่าไร ดีสักเท่าไร หรือจะคิดวิธีไหน อะไรก็ตาม อย่างไงมันก็มาสู้ความรู้สึกจริงๆ ของเราที่เสียใจต่อการจากไปของผู้เสียชีวิต และไม่สามารถหาสิ่งใดมาทดแทนได้เลย….

 

                ก็ต้องขอแสดงความเสียใจอย่างที่สุดสำหรับการจากไปของคุณแม่ของน้องจ๊อบ และป้าแดงของผมและคนอื่นๆ ขอให้ดวงวิญญานของท่านได้พักผ่อนให้สบาย และช่วยให้คนที่ยังอยู่นั้นปราศจากทุกข์โศก มีแต่ความสุข ตลอดไป……

 

ผู้เขียน/เรียบเรียง จากหนุ่ม

2010-10-12

Comments are closed.

Looking for something?

Use the form below to search the site:

Still not finding what you're looking for? Drop a comment on a post or contact us so we can take care of it!

Visit our friends!

A few highly recommended friends...